บริษัทฯ ให้บริการโรงแรมที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ของนักท่องเที่ยวและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม สนับสนุนความร่วมมือเพื่อลดความเสี่ยงด้านความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและลดภาวะโลกร้อน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าทั้งในพัฒนาโครงการและการดำเนินการ ตลอดจนการใช้ทรัพยากรต่างๆ อย่างรู้คุณค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ นโยบายด้านการบริหารจัดการพลังงานและคาร์บอน นโยบายด้านการบริหารจัดการขยะเศษอาหาร นโยบายด้านการบริหารจัดการวัสดุ ขยะ และของเสีย และนโยบายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
การบริหารจัดการพลังงาน
ธุรกิจการให้บริการเป็นธุรกิจที่มีการใช้พลังงานสูงทั้งในส่วนที่เป็นการใช้งานโดยตรงจากการประกอบกิจการ และส่วนที่บริโภคโดยผู้ใช้บริการและแขกผู้เข้าพัก ทำให้การลดการใช้พลังงานในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีความท้าทาย ทั้งนี้ บริษัทฯ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดอัตราการสิ้นเปลือง แสวงหาเทคโนโลยีและพันธมิตรด้านการใช้พลังงานที่หลากหลาย เพื่อยังคงคุณภาพการให้บริการที่เป็นเลิศ แต่สามารถลดการบริโภคพลังงานไปพร้อมๆ ซึ่งการใช้พลังงานยังเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อการปลดปล่อยคาร์บอนของ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป และโรงแรมในเครือ
บริษัทฯ ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการพลังงาน ที่บริษัทฯ มีการดำเนินงานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเชิงกลยุทธ์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรในการศึกษาและจัดหาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เป้าหมาย
- บริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและลดปริมาณการใช้พลังงานต่อห้อง (energy intensity) ลงร้อยละ 2 ต่อปี เพื่อลดต้นทุนทางด้านพลังงานและสอดคล้องต่อเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ
- เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 10 ของโรงแรมทั้งหมด ภายในปี พ.ศ.2570
- ทุกโรงแรม (ร้อยละ 100) ที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง มีบริการที่เกี่ยวข้องกับการลดใช้พลังงานและชดเชยคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2570
โอกาสและความเสี่ยงทางธุรกิจ
โอกาส
- ลดต้นทุนทางธุรกิจในระยะยาวจากการบริโภคพลังงานที่ลดลง
- เพิ่มข้อได้เปรียบทางการแข่งขันด้านต้นทุนสำหรับโรงแรมระดับบัดเจ็ท
- ดึงดูดลูกค้าต่างชาติและลูกค้าที่ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ตอบสนองและส่งเสริม Sustainable lifestyle ของลูกค้า
- เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว (Green Finance) เป็นที่สนใจของนักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง
ความเสี่ยงและความท้าทาย
- ความไม่เพียงพอทางด้านพลังงานในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้พลังงานสูง อาทิ ฤดูกาลท่องเที่ยว
- การลดใช้พลังงานอย่างสมดุลโดยไม่กระทบต่อการให้บริการและความพึงพอใจของลูกค้า
- พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ฯลฯ จำเป็นต่อกระบวนการดำเนินงานทางธุรกิจ แต่ก็เป็นทรัพยากรที่กระทบต่อปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนอย่างมีนัยสำคัญ
แนวทางการบริหารจัดการ
- กำหนดเป้าหมาย แผนงาน และติดตามประเมินผล
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรมและห้องพัก ผ่านการบำรุงรักษาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้และต่อยอด
- เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของลูกค้า
- สร้างความร่วมมือด้านพลังงานกับพันธมิตรต่างๆ
ข้อมูลการใช้ไฟฟ้าในองค์กร
2565
กิโลวัตต์-ชั่วโมง
2566
กิโลวัตต์-ชั่วโมง
2567
กิโลวัตต์-ชั่วโมง

ผลการดำเนินงาน
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความต้องการใช้พลังงานที่หลากหลาย ขยายโอกาสทางธุรกิจควบคู่ไปกับการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิผล
เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนพลังงานไฟฟ้า
- กลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์ เริ่มดำเนินการขยายการติดตั้ง Solar Rooftop ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึง พฤศจิกายน 2567 เพิ่ม 8 อาคาร รวมติดตั้งแล้วเสร็จ 11 อาคาร ขนาดและกำลังการผลิตของแผงโซล่าร์เซลล์รวม 176 กิโลวัตต์ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 111,393 กิโลวัตต์ คิดเป็นสัดส่วนการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เฉลี่ยร้อยละ 6 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าของโรงแรมฮ็อป อินน์ ทั้ง 11 อาคาร
-
กลุ่มโรงแรมในเครือแมริออท ขยายการติดตั้ง Solar Rooftop ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึง กรกฏาคม 2567จำนวน 3 โรงแรมประกอบด้วย (1) โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ (2) โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพ และ (3) เดอะ นาคา ไอแลนด์ เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ท แอนด์ สปา ภูเก็ต
ขนาดและกำลังการผลิตของแผงโซล่าร์เซลล์รวม 655 กิโลวัตต์ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 472,966 กิโลวัตต์ คิดเป็นสัดส่วนการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เฉลี่ยร้อยละ 5 ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้ง 3 โรงแรม
- ปี 2567 บริษัทฯ ขยายการติดตั้ง EV Charging Station เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของโรงแรม รวม 10 แห่ง ประกอบด้วย (1) โรงแรมเจดับบลิว แมริออท (2) โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพ (3) โรงแรมโนโวเทล ไอบิส สไตล์ กรุงเทพ สุขุมวิท 4 (4) โรงแรมไอบิส กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ (5) โรงแรมไอบิส กรุงเทพ สาธร (6) โรงแรมไอบิส กรุงเทพ สุขุมวิท 4 (7) โรงแรมไอบิส ภูเก็ต ป่าตอง (8) โรงแรมฮ็อป อินน์ หัวหิน (9) โรงแรมฮ็อป อินน์ กาญจนบุรี และ (10) โรงแรมฮ็อป อินน์ ชลบุรี
ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า
- เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับเปลี่ยนระบบผลิตน้ำเย็น (Chiller Plant) ณ โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ร้อยละ 26 ช่วยประหยัดได้ถึง 2,559,506 บาท
- บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นและดำเนินการมาตลอดในการเปลี่ยนจากหลอดไฟธรรมดาเป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานตั้งแต่ปี 2562 ถึงปี 2567 ตามรอบระยะเวลาของการใช้งาน และรวมไปถึงการติดตั้งหลอดไฟใหม่ในพื้นที่ก่อสร้างโครงการใหม่
- บริษัทฯ ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในเรื่องการบริหารจัดการพลังงาน โดยได้เริ่มดำเนินการทดลองติดตั้ง Double Motion Sensor ที่ (1) โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ จำนวน 2 ห้อง (2)โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ จำนวน 1 ห้อง และ (3) โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา จำนวน 1 ห้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในห้องพักและลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ซึ้งเป็นโครงการนำร่องในเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2567
ปริมาณการใช้พลังงานของ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป
การใช้พลังงาน | หน่วย | ปี 2564 | ปี 2565 | ปี 2566 | ความเปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้า |
---|---|---|---|---|---|
ไฟฟ้า | ล้านกิโลวัตต์/ชม. | 50.56 | 67.11 | 76.16 | 13.48% |
น้ำมันดีเซล | ล้านลิตร | 74.71 | 73.08 | 52.27 | -28.48% |
น้ำมันเบนซิน | ล้านลิตร | 24.78 | 16.46 | 10.52 | -36.08% |
ก๊าซธรรมชาติ (LPG) | ตัน | 881.49 | 1,227.09 | 1,399.40 | 14.04% |
โรงแรมระดับบัดเจ็ท | กิโลวัตต์/ห้อง | 17.61 | 13.07 | 13.36 | 2.24% |
โรงแรมระดับประหยัด | กิโลวัตต์/ห้อง | 65.06 | 32.16 | 22.19 | -31.01% |
โรงแรมระดับกลาง | กิโลวัตต์/ห้อง | 116.46 | 49.87 | 40.78 | -18.24% |
โรงแรมระดับลักชูรี | กิโลวัตต์/ห้อง | 592.95 | 165.99 | 155.64 | -6.24% |
ความเข้มข้นพลังงานเฉลี่ย | กิโลวัตต์/ห้อง | 76.87 | 41.88 | 37.20 | -11.17% |
หมายเหตุ
- ปี 2566 - 2567 การท่องเที่ยวในประเทศไทยฟื้นตัว โรงแรมหลายแห่งมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
- ไม่นับรวมข้อมูลของศูนย์อาหาร ที่อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ เนื่องจากเป็นการใช้พลังงานโดยผู้เช่าพื้นที่
- สามารถจัดเก็บข้อมูลการใช้เชื้อเพลิงได้ในบางการดำเนินงาน
- คำนวนรวมปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
- รายงานฉบับนี้มีขอบเขตครอบคลุมเฉพาะการดำเนินงานของบริษัทภายในประเทศไทยเท่านั้น
การจัดการทรัพยากรน้ำ
เป้าหมาย
- เป้าหมายลดปริมาณการดึงน้ำจากแหล่งน้ำรวมร้อยละ 1 ต่อปี
- ลดปริมาณการใช้น้ำต่อห้องลงร้อยละ 5 ต่อปี
โอกาสและความเสี่ยงทางธุรกิจ
โอกาส
- ประหยัดต้นทุนการดำเนินงานจากการลดปริมาณการบริโภคน้ำที่สิ้นเปลือง
- การบริหารจัดการน้ำอย่างมีศักยภาพจะทำให้โรงแรมสามารถให้บริการได้อย่างเต็มศักยภาพตลอดปี
ความเสี่ยงและความท้าทาย
- โรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือบริเวณหมู่เกาะอาจเผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะในฤดูท่องเที่ยวที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำมาก และฤดูแล้งที่น้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติมีไม่เพียงพอ ทำให้การให้บริการอาจสะดุดลง
แนวการบริหารจัดการ
- ติดตามประเมินความต้องการใช้น้ำ ตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งและการบำบัดน้ำเสียของโรงแรมอย่างสม่ำเสมอในทุกฤดูกาล
- บำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพพร้อมใช้อยู่เสมอ เลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้น้ำน้อย
- สร้างการมีส่วนร่วมกับแขกผู้เข้าพักด้วยกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ
ผลการดำเนินงาน
บริษัทฯ มุ่งมั่นในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งหมายรวมถึงการใช้น้ำจากแหล่งน้ำ การนำน้ำมารีไซเคิล และใช้ซ้ำผ่านนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดการน้ำ บริษัทฯ ปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐาน ISO 14001 และกฎหมาย ข้อบังคับอื่นๆ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุง ประสิทธิภาพและลดการใช้น้ำอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประหยัดน้ำแล้ว เรายังมี การรณรงค์ส่งเสริมให้ลูกค้าและพนักงานช่วยกันประหยัดน้ำ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เคมีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากปริมาณการใช้พลังงานแล้ว การใช้น้ำยังเป็นทรัพยากรที่ถูกบริโภคอย่างมากในกลุ่มธุรกิจโรงแรม โดย ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ได้มีแนวปฏิบัติเพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้ และลดปริมาณการใช้น้ำ ดังนี้
- รณรงค์ให้แขกผู้เข้าพักลดการเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวเพื่อลดปริมาณน้ำจากการซักทำความสะอาด
- สร้างความตระหนักรู้ให้แก่พนักงานถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเหมาะสมและคุ้มค่า
- ติดตั้ง Aerator เพื่อลดปริมาณน้ำไหลจากก๊อกน้ำ เลือกใช้สุขภัณฑ์รุ่นประหยัดน้ำ
- ตรวจสอบอุปกรณ์ ระบบท่อ และมาตรวัดน้ำ เพื่อตรวจเช็ค บันทึกข้อมูลการใช้น้ำ และซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันน้ำรั่ว
- สร้างแหล่งกักเก็บน้ำจากน้ำฝนในพื้นที่ที่เหมาะสม
- สร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และมีตรวจสอบคุณภาพน้ำใช้ที่ออกจากโรงแรมเป็นประจำ
ปริมาณการดึงน้ำจากแหล่งน้ำ
แหล่งน้ำ | หน่วย | ปี 2564 | ปี 2565 | ปี 2566 |
---|---|---|---|---|
น้ำประปา | ลบ.ม. | 684,776.81 | 1,047,587.00 | 1,269,078.96 |
น้ำผิวดิน | ลบ.ม. | - | - | - |
น้ำบาดาล | ลบ.ม. | 10,013.00 | 145,096.00 | 146,815.00 |
น้ำทะเล | ลบ.ม. | - | - | - |
รวม | ลบ.ม. | 694,789.81 | 1,192,683.00 | 1,415,893.96 |
ปริมาณการดึงน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ ในปี 2567

การบริหารจัดการคาร์บอน
เจตนารมณ์ต่อการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมเกี่ยวข้อต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากการเดินทางของนักท่องเที่ยวเอง การใช้พลังงานเพื่อบริการผ่านแขกผู้เข้าพักผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือแม้กระทั่งการปรับปรุงและก่อสร้างที่จะต้องคำนึงถึงสภาพพื้นที่ ภูมิประเทศ และผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงภาพภูมิอากาศประกอบกัน
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ตระหนักดีว่าการดำเนินธุรกิจโรงแรมต้องคำนึงถึงปัจจัยผลกระทบต่างๆ อย่างรอบด้าน จึงเจตนารมณ์ต่อการลดคาร์บอนองค์กรอย่างจริงจัง ครอบคลุมทุกโรงแรมในเครือ โดยต้องการสนับสนุนเป้าหมาย NDC (Nationally Determined Contributions) ของประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ในปีพ.ศ. 2608 (ค.ศ.2065) รวมทั้งได้กำหนดแผนการดำเนินงานด้านคาร์บอนในระยะยาวโดยสังเขปไว้
เป้าหมาย
- สนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี พ.ศ.2050 (พ.ศ.2593) ของประเทศไทย
- ทุกโรงแรม (ร้อยละ 100) ที่บริษัทฯ บริหารจัดการเอง มีบริการที่เกี่ยวข้องกับการลดใช้พลังงานและชดเชยคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2570
Scope 1 and 2 Greenhouse Gas Emissions TonCO2e
2564
2565
2566*
*ได้รับการทวนสอบโดยหน่วยงานภายนอก
โอกาสและความเสี่ยงทางธุรกิจ
โอกาส
ธุรกิจโรงแรมของ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ให้ความสนใจต่อการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกที่แตกต่างกัน ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งในและต่างประเทศที่สนใจการเข้าพักและการจัดประชุมที่สามารถจัดในรูปแบบของ Green Meeting หรือการเข้าพักที่สามารถชดเชยคาร์บอนได้ โดยหากบริษัทฯ มีการดำเนินงานอย่างเข้มข้นในจุดนี้ จะสามารถขยายฐานลูกค้าได้ในอนาคต นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว (Green Finance) มากยิ่งขึ้น
ความเสี่ยงและความท้าทาย
ธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจการให้บริการที่มีการใช้พลังงานสูงและการใช้พลังงานส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากส่วนของผู้ใช้บริการ ซึ่งโรงแรมอาจมีอำนาจในการควบคุมหรือบริหารจัดการได้ยาก จึงนับเป็นความท้าทายของบริษัทฯ ในการก้าวไปสู่เป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอน อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีความพยายามในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การก่อสร้าง รวมถึงนำนวัตกรรมด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ มาปรับใช้ในกระบวนการธุรกิจให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ความต้องการใช้บริการโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้นจากทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ หากโรงแรมไม่ปรับตัวเพื่อพร้อมรับมือกับความต้องการที่เกิดขึ้น อาจเสียโอกาสทางธุรกิจระยะยาวในอนาคต
แนวการบริหารจัดการ
- บริหารจัดการการใช้พลังงานให้เป็นไปตามเป้าหมายและแผนงานที่กำหนดไว้
- เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในส่วนของโรงแรม อาทิ การติดตั้งโซลาร์เซลล์ และการให้บริการลูกค้า อาทิ การเพิ่มจุดจอดรถสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า (EV Charging Station)
- กำหนดเป้าหมาย แผนงาน แนวการบริหารจัดการ รวมถึงการกำหนดปีฐานเพื่อติดตาม ประเมิน และลดการปลดปล่อยคาร์บนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
- สร้างความร่วมมือด้านคาร์บอนกับพันธมิตรต่างๆ
- ให้ความรู้และความตระหนักรู้แก่พนักงานและผู้บริหารเกี่ยวกับบทบาทของผู้ให้บริการโรงแรมที่กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภาพภูมิอากาศ
- ยกระดับโรงแรมให้ได้มาตรฐาน Green Hotel และมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ
ผลการดำเนินงาน
ปี 2566 ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ได้รับการตรวจประเมินและรับรองการปลดปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร (CFO) ขอบเขตที่ 1, 2 จากหน่วยงานภายนอก และได้กำหนดเป็นปีฐานเพื่อกำหนดแผนการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และมีการดำเนินงานหลักอื่นๆ ดังนี้
- ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ SCG Cleanergy สนับสนุนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ภายในโรงแรมในเครือ
- ร่วมมือกับ BanpuNext ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานภายในโรงแรม
- ปลูกต้นไม้ 500 ต้นเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพมหานคร และปลูกป่าชายเลน 20 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
- ขยายจุดให้บริการ EV Charging Station ในโรงแรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ริเริ่มโครงการ “STAY FOR SANTA” ร่วมกับ Carbon Market Club ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ส่วนบุคคล 332 ตันคาร์บอนเทียบเท่าในช่วงเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่
- ESG & Carbon Knowledge Sharing ให้ความรู้ผู้บริหารระดับสูงและพนักงานจำนวน 22 คน คิดเป็นชั่วโมงการฝึกอบรม 88 ชั่วโมง
การบริหารจัดการขยะและของเสีย
เป้าหมาย
- บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการลดปริมาณขยะฝังกลบลง
โอกาสและความเสี่ยงทางธุรกิจ
โอกาส
- โอกาสทางธุรกิจในการแสวงหาวัสดุและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างจุดเด่น เพื่อนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโรงแรม
ความเสี่ยงและความท้าทาย
- ขยะเศษอาหารเป็นประเด็นความยั่งยืนที่มีนัยสำคัญสำหรับธุรกิจโรงแรม ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติ และกระทบต่อประเด็นความหิวโหยที่เกิดขึ้น ผู้ประกอบการจึงต้องบริหารจัดการอย่างสมดุลเพื่อให้บริการลูกค้าด้วยประมาณและคุณภาพให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้า ในขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงอาหารเหลือทิ้งที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ (food loss) และการบริโภค (food waste) อีกด้วย
แนวการบริหารจัดการ
- จำแนกประเภทขยะที่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะขยะเศษอาหาร และเพิ่มสัดส่วนการแยกขยะ
- สนับสนุนการใช้วัสดุรีไซเคิล หรือสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ใช้หลัก 4R: Reduce, Reuse, Recycle และ Resourcing
- ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันสร้างเส้นทางของขยะให้หมุนเวียนและเกิดประโยชน์สูงสุด
ผลการดำเนินงาน
- 5 พันธมิตรด้านการจัดการขยะ
- ขยะเศษอาหารลดลง 29.30% จากโครงการ Zero Food Waste
- พลาสติก 457.10 kg. ถูกนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง
การจัดการอาหารเหลือจากการบริโภคและขยะอาหาร
บริษัทฯ ยังรณรงค์ให้ริเริ่มโครงการ Zero Food Waste ในหลายโรงแรมอาทิ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ที่เริ่มจากการรณรงคให้พนักงานรับประทานอาหารของตนที่ให้บริการในห้องอาหารพนักงานให้หมด ไม่เหลือทิ้ง โดยได้เริ่มโครงการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ สามารถลดปริมาณขยะเศษอาหารในห้องอาหารพนักงานได้ถึงร้อยละ 29.30 ภายในเดือนแรก หรือลดลงเฉลี่ยร้อยละ 12.44 ต่อเดือน
พันธมิตรในการลดขยะเศษอาหาร

มูลนิธิ Scholars of Sustenance (SOS) – องค์กรสาธารณกุศลที่ส่งต่ออาหารเหลือจากบุฟเฟต์แก่มูลนิธิและผู้ยากไร้
โรงแรมที่เข้าร่วมเครือข่าย
- โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ
- โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ
- โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพ
- กลุ่มโรงแรมแอคคอร์ (มีแผนการเข้าร่วมโครงการนี้ในปี 2569)

“Yindii” – แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์บนมือถือที่ส่งต่อเบเกอรี่จากจากบุฟเฟต์ของโรงแรมไปจำหน่ายในราคาพิเศษ เพื่อลดปริมาณอาหารที่ต้องทิ้ง
โรงแรมที่เข้าร่วมเครือข่าย
- โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ
- โรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ

The PLEDGE on Food Waste - โครงการลดขยะจากเศษอาหารของหน่วยงาน
โรงแรมที่เข้าร่วมเครือข่าย
- โรงแรมคอร์ทยาร์ด โดย แมริออท กรุงเทพ ได้รับรางวัล All-Star
การจัดการขยะพลาสติก
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป และโรงแรมในเครือมีนโยบายงดใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastic) เพื่อลดปริมาณพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ รวมทั้งและคัดเลือกผลิตภัณฑ์ทดแทน โดยคำนึงถึงความพึงพอใจและความปลอดภัยของลูกค้า เพื่อลดการสร้างขยะพลาสติกจากต้นทาง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง บริษัท เอสซีจี เคมิคัล จำกัด (SCGC) และ Corsair International ประเทศไทย คัดแยกขยะพลาสติกเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง โดยมีพลาสติกที่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 457.10 กิโลกรัม
การจัดการขยะกระดาษ
สำนักงานใหญ่และโรงแรมในเครือ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ในพื้นที่กรุงเทพฯ ร่วมกับพันธมิตร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รวบรวมกระดาษเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุดของกระดาษเหลือใช้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนเส้นทางและรอบการจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้พลังงานในการขนส่งอีกด้วย
รายงานผลการประหยัดทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ยอดกระดาษสะสมจาก 6 Locations ดังนี้
- ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพ)
- ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (โรงแรมเมอร์เคียว แบงค็อก สุขุมวิท 24)
- ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท กรุงเทพ)
- ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (โรงแรมไอบิส กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์)
- ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (โรงแรมคอร์ทยาร์ด กรุงเทพ)
- ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (อาคารเพลินจิต)
รีไซเคิลกระดาษไปแล้ว (กิโลกรัม)
ปี 2566
ปี 2567
การจัดการเพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบ
บริษัทฯ ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดแยกขยะให้ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อมุ่งลดปริมาณขยะฝังกลบ โดยในเบื้องต้นได้เริ่มเก็บสถิติขยะฝังกลบของโรงแรมและสำนักงานใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
สัดส่วนขยะแต่ละประเภทปี 2566
การจัดการด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินการกิจกรรมด้านความหลากหลายทางชีวภาพดังนี้
การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนนั้น ต้องคำนึงถึงการดูแลรักษาทรัพยากร และการใช้ประโยชน์อย่างสมดุล การสร้างความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม และช่วยกันดูแลจะเป็นหลักการที่สำคัญในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ
ปี 2565
ปี 2565 บริษัทฯ มีการสนับสนุนปลูกต้นไม้ร่วมกับโรงแรมในเครือเพื่อช่วยการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยบริษัทฯ และโรงแรมในเครือ ร่วมกันปลูกต้นไม้ในสวนจตุจักร สวนป่าเบญจกิติ และบริเวณอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ชลบุรี รวม 400 ต้น
โรงแรมเดอะ นาคาฯ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนาคา ปลูกป่าชายเลน 2,500 ต้น ร่วมกับ อบต.ป่าคลอก และเข้าร่วมโครงการ Go Green เก็บขยะชายหาด และบริเวณพื้นที่หมู่บ้าน รวมเป็นปริมาณขยะ จำนวน 156.54 กิโลกรัม
ปี 2566
ในปี 2566 บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ปลูกต้นไม้จำนวน 500 ต้น ณ สวนสาธารณะใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT คลองเตย เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก (5 มิถุนายน 2566) โดยกิจกรรมนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับสำนักงานเขตคลองเตย อาสาสมัครในพื้นที่ และโรงแรมในเครือฯ ทั้งนี้ มีพนักงานเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 86 คน
นอกจากนี้ เรายังได้ปลูกต้นโกงกางจำนวน 15,000 ต้น บนพื้นที่ 20 ไร่ ณ ป่าชายเลนของชุมชนบริเวณอ่าวทองคำ หมู่บ้านแหลม ตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปี 2567
ในปี 2567 บริษัทฯ จัดกิจกรรม “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ร่วมใจปลูกต้นไม้” ณ สวน 50 สุข เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยร่วมมือกับสำนักงานเขตคลองเตย อาสาสมัครในพื้นที่ และพนักงานในเครือ รวม 92 คน ร่วมปลูกต้นไม้ 200 ต้น ปรับปรุงภูมิทัศน์ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับสวนสาธารณะเพื่อประโยชน์ของชุมชนกิจกรรมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยบริษัทฯ ได้สนับสนุนการปลูกต้นไม้แล้วกว่า 1,000 ต้น และดำเนินความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนในสังคมไทย