ดิ เอราวัณ ยึดมั่นในความโปร่งใส ปลูกฝังสร้างจิตสำนึกที่ดีควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะความสามารถให้กับบุคลากรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่จะก่อให้เกิดประสิทธิผลในทุกกระบวนการทำงาน เราส่งเสริมพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและพัฒนาชุมชนและสังคมโดยรอบธุรกิจบริษัทและสังคมโดยรวม
การบริหารทรัพยากรบุคคล
ข้อมูลเกี่ยวกับพนักงาน
บริษัทฯ และบริษัทย่อยในประเทศไทย มีจำนวนพนักงาน ณ สิ้นปี 2565 ทั้งหมด 3,576 คน ผลตอบแทนประกอบด้วย เงินเดือน โบนัส รวม 1,338,644,184.26 บาท มีพนักงานเข้าร่วมโครงการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 792 คน คิดเป็นสัดส่วน 22% ต่อพนักงานทั้งหมด
การดูแลพนักงาน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ ก็ยังคงมาตรการดูแลพนักงานแบบองค์รวมทั้งสุขภาพกายและใจเพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างปลอดภัย และมีความสุขพร้อมเดิน หน้าปรับตัวอยู่กับองค์กรได้ยาวนาน ร่วมกันสร้างผลงาน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า และส่งมอบคุณค่าที่ ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งการปฎิบัติต่อพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมด้วยหลักปฏิบัติสากลด้านสิทธิมนุษยชน
สวัสดิการพนักงาน
บริษัทฯ ได้จัดให้มีสวัสดิการต่างๆ สำหรับพนักงานตามกฎหมายกำหนด และมีสวัสดิการเพิ่มเติมให้กับพนักงาน เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สวัสดิการกองทุนเงินทดแทน และเงินช่วยเหลือต่างๆ สำหรับพนักงาน
การสรรหาพนักงาน
บริษัทฯ ดำเนินการสรรหาบุคลากรโดยยึดถือการปฎิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน ในเรื่องของความเสมอภาค ศักดิ์และสิทธิในการได้รับการปฎิบัติต่อมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิว เพศ อายุ ศาสนา และความเชื่อ เปิดโอกาสให้ทุกเชื้อชาติสามารถเข้ามาเป็นพนักงาน โดยคำนึงถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน เป็นหลักโดยพนักงานใหม่ทุกคนจะได้รับการปฐมนิเทศและโปรแกรมการเรียนรู้งานรวมทั้งการเปิดโอกาสให้ พนักงานภายในสามารถหมุนเวียนงาน โอนย้ายหรือได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ตามความเหมาะสม เพื่อพัฒนาทักษะ และเพิ่มโอกาสด้านความก้าวหน้าในอาชีพ
การส่งเสริมการจ้างงาน | ผู้ชาย | ผู้หญิง | |
---|---|---|---|
จำนวนการจ้างงานผู้พิการ | คน | 14 | 8 |
จำนวนการรับนักศึกษาฝึกงาน | คน | 138 | 251 |
การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรประจำปี 2565
การขับเคลื่อนค่านิยมหลักและวัฒนธรรมองค์กร
บริษัทฯ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้าง DNA ความเป็นหนึ่งเดียวกันของพนักงานผ่านค่านิยมหลัก และวัฒนธรรมองค์กร (EPIC) โดยมีการจัดการสื่อสาร Corporate Townhall และขับเคลื่อนการแสดงออกเชิงพฤติกรรมผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
การพัฒนาศักยภาพและทักษะพนักงาน
บริษัทฯ ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 ได้มีการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ ERW Hybrid Learning Center ทั้ง Onsite และ Online ควบคู่กันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดผ่านการถ่ายทอดความรู้จากวิทยากรทั้งภายในและภายนอก รวมถึงช่องทางการเรียนรู้จากแพลตฟอร์มหรือสถาบันชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ
ข้อมูลด้านการฝึกอบรมและพัฒนา | ผู้ชาย | ผู้หญิง | |
---|---|---|---|
จำนวนหลักสูตรที่มีการจัดอบรม | หลักสูตร | 7741 | |
จำนวนพนักงานที่เข้าร่วมอบรม จำแนกตามเพศ | คน | 1438 | 1696 |
จำนวนชั่วโมงการอบรมทั้งหมดต่อปี | total hours/year | 101024 | |
จำนวนชั่วโมงการอบรมเฉลี่ยต่อคน ต่อปี | hours/person/year | 27 | |
ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกอบรมพนักงานเฉลี่ย | cost/head | 1142 | |
ความพึงพอใจของพนักงานที่เข้าร่วมอบรม | % | 95% | |
การจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล | ผู้ชาย | ผู้หญิง | |
สำนักงานใหญ่ | คน | 30 | 77 |
โรงแรม | คน | 538 | 536 |
การประเมินประสิทธิภาพและการพัฒนาอาชีพ | ผู้ชาย | ผู้หญิง | |
พนักงานที่ได้รับการประเมินผลงานและให้ข้อมูลป้อนกลับ | คน | 1147 | 1093 |
พนักงานที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง | คน | 93 | 151 |
พนักงานที่ได้รับการหมุนเวียนงานหรือโอนย้าย | คน | 61 | 53 |
นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน
บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดูแลเรื่อง สุขภาพ ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมที่ดีในการปฎิบัติงาน และมีการจัดอบรมให้ความรู้สำหรับพนักงาน ในการดูแลตนเองผ่าน Doctor Online และการพบแพทย์ทางเลือกในรูปแบบ Telemedicine การสนับสนุนการตรวจสุขภาพประจำปีและฉีดวัคซีนเสริมภูมิคุ้มกันต่างๆ อีกทั้งยังคงมาตรการดูแลสุขอนามัยและการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในสำนักงานอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการให้พนักงานเข้าร่วมอบรมและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟประจำปี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย | ผู้ชาย | ผู้หญิง | |
---|---|---|---|
อัตราการบาดเจ็บทั่วไป | คน | 45 | 28 |
อัตราต่อ 1,000,000 ชั่วโมง | per 1,000,000 hour | 0 | 0 |
จำนวนวันหยุดงานทั้งหมด | วัน | 251 | 61 |
อัตราการบาดเจ็บรุนแรง (ไม่รวมการเสียชีวิต) | คน | 0 | 0 |
อัตราต่อ 1,000,000 ชั่วโมง | per 1,000,000 hour | 0 | 0 |
จำนวนวันหยุดงานทั้งหมด | วัน | 0 | 0 |
อัตราการเสียชีวิต | คน | 0 | 0 |
อัตราต่อ 1,000,000 ชั่วโมง | per 1,000,000 hour | 0 | 0 |
ข้อพิพาทแรงงานย้อนหลัง 3 ปี
ในช่วงปี 2563 – 2565 บริษัทฯ ไม่มีข้อพิพาททางด้านแรงงานที่มีนัยสำคัญ
การร้องเรียนของพนักงานเกี่ยวกับข้อปฎิบัติด้านแรงงาน | ผู้ชาย | ผู้หญิง | |
---|---|---|---|
จำนวนข้อพิพาทร้องเรียนของพนักงาน | คน | 0 | 0 |
จำนวนข้อร้องเรียนของพนักงานเกี่ยวกับการปฎิบัติด้านแรงงาน | คน | 0 | 0 |
จำนวนข้อร้องเรียนที่ได้รับการแก้ไขแล้ว | คน | 0 | 0 |
จำนวนข้อร้องเรียนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ | คน | 0 | 0 |
การร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน | 2563 | 2564 | 2565 |
---|---|---|---|
จำนวนข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชน | 0 | 0 | 0 |
ข้อมูลพนักงาน
จํานวนพนักงานทั้งหมด (คน)
จํานวนพนักงานจำแนกตามระดับตำแหน่งงาน (คน)
จํานวนพนักงานจำแนกตามอายุงาน (คน)
จํานวนพนักงานจำแนกตามเชื้อชาติ (คน)
จํานวนพนักงานจำแนกตามสถานที่ทำงาน (คน)
จํานวนพนักงานจำแนกตามประเทศ (คน)
จํานวนพนักงานจำแนกตามภูมิภาค ประเทศไทย และประเทศฟิลิปปินส์ (คน)
การมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน
บริษัทฯ มีนโยบายและให้ความสำคัญที่จะร่วมพัฒนาชุมชนและสังคมไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจ ภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการใช้ทักษะความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงแรม นำไปพัฒนาและสนับสนุนให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ มีศักยภาพในการพัฒนาตนเอง สร้างงานให้กับแรงงานท้องถิ่นและส่งเสริมการรักษาวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยสนับสนุนให้พนักงานอาสาสมัครทำงานในโครงการเพื่อสังคมของบริษัทฯ นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ ภาคีเครือข่าย หน่วยงานราชการเพื่อร่วมกันทำงานที่จะส่งเสริมความเข้มแข็งให้ชุมชนเพื่อสร้างสังคมแห่งความยั่งยืน
โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ดังนี้
- โครงการฮ็อป อินน์ เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านงานโรงแรมให้กับนักศึกษาในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนการผลิตบุคลากรด้านการโรงแรมที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมอาชีพให้แก่นักศึกษา โดยบริษัทฯ ได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ ในพื้นที่ที่มีธุรกิจดำเนินการอยู่รวม 10 สถาบันเพื่อจัดส่งนักศึกษาเข้าฝึกงานกับทางโรงแรมฮ็อป อินน์ และสามารถเข้าร่วมทำงานกับโรงแรมได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยได้เริ่มโครงการในเดือนมีนาคม มีนักศึกษาจำนวน 10 คนได้เข้าฝึกปฏิบัติงานจริงกับโรงแรม ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าโครงการนี้จะช่วยสนับสนุนศักยภาพและสร้างงานให้กับแรงงานท้องถิ่น
- โครงการเที่ยวบ้านฉัน เป็นกิจกรรมประกวดวาดภาพของเยาวชนระดับประถมศึกษาโดยร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในพื้นที่ที่มีโรงแรม ฮ็อป อินน์ ตั้งอยู่ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนผ่านผลงานภาพวาดของเยาวชน เป็นการส่งเสริมจินตนาการ สร้างความภาคภูมิใจและรักท้องถิ่นให้กับเยาวชน โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม 47 โรงเรียน รวม 156 ภาพจาก 4 พื้นที่ คือ จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดน่าน จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพฯ ทำการคัดเลือกภาพด้วยการโหวตจากลูกค้าที่เข้าพักโรงแรม ฮ็อป อินน์ และประชาชนบุคคลทั่วไป
บริษัทฯ และโรงแรมในเครือจัดกิจกรรมพนักงานอาสาโดยมีเจตนารมณ์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสังคมจากการแพร่ระบาดของ โควิด- 19 ตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่โดย
- โรงแรมในเครือมอบอาหาร เจลแอลกอฮอล์ เครื่องอุปโภค บริโภค มอบให้ชุมชนใกล้เคียงและบุคคลทั่วไป
- บริษัทฯ มอบหน้ากาก N95 และกล้วยตากผลิตภัณฑ์จากชุมชนผาปัง จังหวัดลำปาง แก่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา, โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต, โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานครฯ
- บริษัทฯ มอบ Thank You Bag ให้กับพนักงานทำความสะอาดเก็บขยะกวาดถนนในเขตพื้นที่โดยรอบธุรกิจของบริษัทฯ ได้แก่ เขตคลองเตย เขตปทุมวัน เขตสาทร เขตคลองสาน เขตแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร และเทศบาลปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อขอบคุณและเป็นกำลังใจแก่บุคลากรที่ทำงานอย่างหนักในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งภายในถุงบรรจุด้วยกาแฟจากชุมชนดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย ข้าวหอมมะลิภูเขาไฟ จากชุมชนบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ และภาชนะกะลาแปรรูป จากชุมชนบ้านแหลม จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ นำมามอบให้แก่หน่วยงานต่างๆ ล้วนมาจากชุมชนในโครงการ “พักสบายกาย เที่ยวสบายใจ Happy Home Happy Stay” ซึ่งเป็นโครงการเพื่อพัฒนายกระดับการให้บริการและการบริหารจัดการโฮมสเตย์ในชุมชนของบริษัทฯ อันเป็นการช่วยเหลือและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเนื่องจากชุมชนท่องเที่ยวเหล่านี้ล้วนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด- 19
- บริษัทฯ มอบรายได้จากการเข้าพักโรงแรมฮ็อปอินน์ทั่วประเทศทุกสาขาในวันที่ 5 มิถุนายน 2563 โดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบกับเงินร่วมบริจาคของพนักงานรวมเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาทมอบให้ “โครงการ 63 บาทสู้โควิด-19 พลังน้ำใจ 63 บาทแปรเปลี่ยนความทุกข์ยากปี 2563” ซึ่งดำเนินการโดยสภากาชาดไทย
โครงการตู้เปิดจินตนาการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชนในระดับประถมศึกษาด้วยการมอบตู้เปิดจินตนาการซึ่งเป็นตู้ที่มีทั้งหนังสือและของเล่นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้พัฒนาทักษะด้านต่างๆ มีคู่มือการเรียนการสอนเพื่อผลิตสื่อการเรียนรู้ บริษัทฯ จะมอบตู้เปิดจินตนาการให้กับโรงเรียนในจังหวัดที่มีโรงแรม ฮ็อบ อินน์ ประเทศไทย ตั้งอยู่ ซึ่งจะมอบให้ในวันเปิดให้บริการโรงแรมเป็นวันแรกพื้นที่ละ 5 แห่ง โดยเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ 2557 จนถึงปัจจุบันมีโรงเรียนที่ได้รับตู้เปิดจินตนาการไปแล้วรวม 220 แห่ง และในปี 2563 บริษัทฯ ได้มอบตู้เปิดจินตนาการให้แก่โรงเรียน 5 แห่งในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากบริษัทฯ ได้เปิดให้บริการโรงแรม ฮ็อป อินน์ ภูเก็ต สาขาที่ 2
โครงการพักสบายกาย เที่ยวสบายใจ Happy Home Happy Stay การท่องเที่ยวชุมชนมีบทบาทและมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นทั้งผู้คน สังคม วัฒนธรรม ประเพณี และสิ่งแวดล้อม เช่น การปรุงและการรับประทานอาหารท้องถิ่น การทำหัตถกรรมพื้นบ้านรวมถึงการอยู่พักอาศัยแบบบวิถีชีวิตท้องถิ่นกับเจ้าของบ้าน ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการโรงแรมจึงต้องการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สอดคล้องโดยตรงกับบริษัทฯ
ด้วยการยกระดับการบริหารจัดการโฮมสเตย์ในชุมชนผ่านการแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ให้กับชุมชน ส่งเสริมให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ ได้เห็นมุมมองใหม่เห็นโอกาสทางเศรษฐกิจเป็นการเพิ่มศักยภาพในการต่อยอดปรับปรุงเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนจากภายในชุมชนเอง บริษัทฯ ริเริ่มโครงการนี้ในปี พ.ศ2561 ที่ชุมชนบ้านแหลม อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช และต่อมาในปี 2562 ได้ร่วมกับแอร์เอเซีย จัดอบรมให้ความรู้เรื่องการบริการและการบริหารจัดการโฮมสเตย์ให้กับชุมชนในโครงการ Journey D โดยในปี 2563 บริษัทฯ ได้ขยายความร่วมมือกับธนาคารออมสินในโครงการ GSB Smart Homestay โฮมสเตย์มีสไตล์ โดยได้เข้าร่วมพิจารณาตัดสินรางวัล และให้ความรู้แก่ชุมชนในโครงการ ได้แก่ ชุมชนบ้านหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี และชุมชนบ้านมุงเหนือ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และได้สนับสนุนมอบผ้าปูที่นอนสภาพดีที่คัดเลือกจากโรงแรมในเครือให้แก่ 6 ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการได้ใช้ประโยชน์